ไอเดียธุรกิจที่น่าลงทุนสำหรับมือใหม่ ธุรกิจแฟรนไชส์ vs ธุรกิจส่วนตัว
- memarketthink
- 6 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกธุรกิจแฟรนไชส์หรือธุรกิจส่วนตัวดี บทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมไอเดียธุรกิจที่น่าลงทุนสำหรับก้าวแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ
ทำไมคนถึงทำธุรกิจกันมากขึ้น
ในปัจจุบันต้นทุนการเริ่มธุรกิจลดลงเพราะมีแพลตฟอร์มออนไลน์และเครื่องมือสำเร็จรูปช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การตลาดที่ผันผวนทำให้คนอยากเป็นนายตัวเองกันมากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้และการมีอิสรภาพทางการเงินจากการทำธุรกิจของตัวเอง บวกกับนโยบายของรัฐบาลที่เอื้อต่อธุรกิจสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี จึงทำให้คนอยากทำธุรกิจกันมากขึ้น
ธุรกิจส่วนตัวคืออะไร
ธุรกิจส่วนตัว คือ กิจการที่ผู้ประกอบการเป็นเจ้าของและควบคุมสินค้า บริการ ผลิต จำหน่าย หาแหล่งเงินทุน ทำการตลาด และบริการการเงินเอง ซึ่งมีอิสระในการตัดสินใจและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะต้องบริหารธุรกิจด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ การจัดการบุคลากร และต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร
ธุรกิจแฟรนไชส์ คือ รูปแบบการขยายกิจการที่เจ้าของแบรนด์อนุญาตให้ผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ใช้เครื่องหมายการค้า สูตรผลิตภัณฑ์ ระบบการดำเนินงาน และสนับสนุนการตลาดเพื่อเปิดสาขาใหม่ ซึ่งผู้ซื้อธุรกิจเพื่อขยายสาขาจะต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการใช้แบรนด์และการบริหารจัดการทุก ๆ ด้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของแฟรนไชส์และแบ่งรายได้ตามข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้
9 ข้อแตกต่างของธุรกิจส่วนตัวกับธุรกิจแฟนไชส์
ธุรกิจส่วนตัว | ธุรกิจแฟรนไชส์ | |
เงินลงทุนเริ่มต้น | ปรับงบได้ตามทุน ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ | มีค่าแฟรนไชส์ + ค่าแรกเข้า + ค่าลิขสิทธิ์ กำหนดชัดเจน |
ความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ | เปลี่ยนสินค้า‑บริการ‑ราคาได้อิสระ | ต้องยึดสูตร คู่มือ และราคากลางของแบรนด์ |
ความเสี่ยงทางธุรกิจ | เสี่ยงสูงกว่า สร้างทุกอย่างเอง | เสี่ยงต่ำกว่า เพราะแบรนด์พิสูจน์ตลาดแล้ว |
การสร้างแบรนด์ & การตลาด | ต้องลงทุนสร้าง Brand Awareness เอง | ได้แบรนด์ดัง + แผนการตลาดสำเร็จรูป |
ผลกำไรสุทธิ | รับกำไรเต็ม แต่ต้นทุน R&D‑การตลาดสูง | ถูกหักค่าลิขสิทธิ์ / ค่าการตลาดกลาง |
ความเร็วในการเปิดดำเนินการ | ใช้เวลาวางระบบ‑ทดลองตลาดนานกว่า | เปิดได้เร็ว ระบบ‑คู่มือพร้อมใช้งาน |
การสนับสนุน & อบรม | ต้องหาแหล่งวัตถุดิบ‑พัฒนาทักษะเอง | มีการฝึกอบรมครบวงจร |
ข้อผูกมัดทางกฎหมาย/สัญญา | อิสระกว่า แต่ต้องจัดการเอกสารเอง | ต้องทำตามสัญญา (พื้นที่ เมนู ราคา ฯลฯ) |
โอกาสขยายสาขาในอนาคต | ขยายได้อิสระทั่วประเทศ/ต่างประเทศ หากแบรนด์แข็งแรง | ขยายได้เร็วภายใต้แบรนด์เดิม แต่พื้นที่อาจถูกล็อก |
ไอเดียธุรกิจที่น่าลงทุนมีอะไรบ้าง
1 ธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง
ธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีความต้องการสูงขึ้นทุกปี ทุนหลักคือทักษะในการดูแลสัตว์ เช่น บริการรับฝากสุนัข,
อาบน้ำตัดขน, ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์
เคล็ดลับ : สามารถสร้างความน่าเชื่อถือด้วยรีวิวลูกค้าและใบรับรองการฝึก/ดูแลสัตว์
2. ธุรกิจผลิตคอนเทนต์
แค่มีมือถือเครื่องเดียวก็เริ่มต้นธุรกิจได้ ใช้ทุนเริ่มต้นต่ำกว่า 5,000 บาท (อุปกรณ์ถ่ายทำ + อินเทอร์เน็ต)
มีรายได้มาจากค่าโฆษณา, สปอนเซอร์, Affiliate
เคล็ดลับ : เน้นทำคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสและเล่าเรื่องให้จบใน 30-60 วินาที
3 ธุรกิจทำความสะอาด
ธุรกิจเฉพาะทางกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ล้างแอร์, ฆ่าเชื้อ UV‑C โดยใช้ทีมเล็ก 2‑3 คนก็เริ่มต้นได้ ทุนตั้งต้น 30,000–60,000 บาท (อุปกรณ์ + ประกันภัย)
เคล็ดลับ : จัดแพ็กเกจรายปีให้ลูกค้า เพื่อลดการหาลูกค้าใหม่
4 ธุรกิจพลังงานสะอาด
ธุรกิจพลังงานสะอาดกำลังจะเข้ามาในอนาคตอันใกล้นี้ เช่น บริการติดตั้งโซลาร์‑EV Charger สำหรับบ้าน
/คอนโด ทุนตั้งต้นหลักแสนบาท (อุปกรณ์ + ทีมช่าง)
เคล็ดลับ : ร่วมมือกับช่างมืออาชีพและเลือกติดตั้งเครื่องที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
5 ธุรกิจของขวัญตามสั่ง
ธุรกิจนี้ไม่จำเป็นต้องแพ็กของเอง เพราะสามารถดีลกับซัพพลายเออร์ก่อนได้ เงินทุนตั้งต้น 10,000 บาท
(ค่าออกแบบ + ค่าตั้งร้าน)
เคล็ดลับ : เน้นดีไซน์ล้อเลียนกระแส คอลเลกชันตามเทศกาล สร้างความเร่งด่วน