อายุ 30+ ทำไมเหนียงมาไว ควรลดเหนียงยังไงดี
- Admin MMT
- 9 ต.ค.
- ยาว 1 นาที

เมื่ออายุเริ่มก้าวเข้าสู่เลข 3 หลายคนมักสังเกตเห็นว่าเหนียงเริ่มหนาขึ้น จนทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจ ซึ่งเหนียงไม่ได้เกิดแค่กับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ทำให้หลายคนกังวลใจและพยายามหาทางรักษากรอบหน้า ให้กลับมายกกระชับและแลดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
เหนียงคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
เหนียง หรือที่เรียกกันว่า Double Chin คือ ไขมันสะสมที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณใต้คางและลำคอ จนทำให้ดูเหมือนมีคางสองชั้น ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะอย่างเดียว คนทั่วไปก็อาจมีเหนียงได้เช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเหนียงมีดังนี้
ร่างกายเผาผลาญไม่หมด จึงทำให้มีไขมันส่วนเกินจะสะสมใต้คาง
อายุเพิ่มขึ้นทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ผิวจึงหย่อนคล้อยง่าย
โครงสร้างกระดูกและพันธุกรรมของบางคนมีผลต่อการเกิดเหนียง
พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การก้มเล่นมือถือบ่อย ๆ นั่งทำงานนาน ๆ หรือน้ำหนักตัวขึ้นเร็ว ทำให้มีเหนียงได้
ทำไมอายุ 30+ เหนียงถึงมาไวกว่าช่วงวัยรุ่น
เมื่ออายุ 30+ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การพักผ่อนไม่พอ ความเครียด และการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบริเวณใต้คางและลำคอ กล้ามเนื้อที่เคยตึงกระชับจะอ่อนแรงลง ทำให้เหนียงเด่นชัดกว่าช่วงวัยรุ่นที่ร่างกายยังฟื้นตัวเร็วและผิวหนังมีความกระชับตามธรรมชาติ
วิธีลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติ

วิธีลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติสามารถทำได้เองที่บ้าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนี้
ออกกำลังกาย ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 1-2 วัน และทำท่าเงยหน้าแล้วขยับปากเป็นรูปตัว O หรืออ้าปากกว้างแล้วหุบ 10–15 ครั้ง เพื่อช่วยกระชับกล้ามเนื้อ
ควบคุมน้ำหนัก ลดอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาล และเลือกกินผักผลไม้ที่มีโปรตีนดี เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันใต้คาง
นวดกระตุ้น ใช้นิ้วมือหรือน้ำมันนวดเบา ๆ เริ่มจากคางลงมาที่ลำคอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดการสะสมไขมันใต้คาง
ปรับท่าทาง หลีกเลี่ยงการก้มเล่นมือถือหรือก้มหน้าทำงานนาน ๆ เพราะทำให้กล้ามเนื้อคออ่อนแรงและผิวหย่อนคล้อยเร็ว
วิธีลดเหนียงด้วยเทคนิคทางการแพทย์
วิธีลดเหนียงด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายทางเลือกที่ได้รับความนิยม เช่น
ฉีดลดไขมัน ใช้ตัวยาฉีดเข้าไปเพื่อลดไขมันเฉพาะจุด บริเวณเหนียงจะค่อย ๆ เล็กลง เห็นผลใน 2–3 สัปดาห์ และต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง
เครื่องยกกระชับ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยพลังงานความร้อนหรือคลื่นอัลตราซาวด์ เช่น โปรแกรม HIFU / Ulthera / Thermage ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวใต้คางกระชับขึ้น
ดูดไขมันเหนียง เป็นวิธีผ่าตัดเล็กที่สามารถลดเหนียงได้โดยตรงและเห็นผลลัพธ์หลังทำ เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกิน แต่ต้องเสียเวลาพักฟื้นและดูแลตัวเองหลังทำ
ร้อยไหม ช่วยยกกระชับผิวและปรับกรอบหน้าให้ได้รูปมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ มากกว่าคนที่มีไขมันสะสม
ศัลยกรรม ในกรณีที่มีโครงสร้างกระดูกหรือผิวหย่อนคล้อยมาก การผ่าตัดปรับโครงหน้าอาจเป็นทางออกที่ดีและมีประสิทธิภาพ แต่ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมก่อน
4 วิธีลดเหนียงให้เหมาะกับตัวเอง
1 มีเหนียงเล็กน้อย ผิวเริ่มหย่อนคล้อย
เหมาะกับการดูแลตัวเอง เช่น ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และนวดกระตุ้นการไหลเวียนเลือด หากอยากเห็นผลเร็วขึ้นอาจเสริมด้วยโปรแกรม HIFU/Ulthera เพื่อช่วยยกกระชับผิว
2 มีเหนียงจากไขมันสะสม แต่ผิวหน้ายังไม่หย่อนคล้อยมาก
เหมาะกับการฉีดลดไขมัน หรือการดูดไขมันลดเหนียง เพราะช่วยลดปริมาณไขมันได้ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
3 มีเหนียงเพราะผิวหย่อนคล้อยตามวัย
เหมาะกับการยกกระชับผิวด้วยโปรแกรม Ulthera/Thermage หรือการร้อยไหม เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น
4 มีทั้งไขมันสะสม และผิวหย่อนคล้อยมาก
อาจต้องใช้ 2 วิธีควบคู่กัน เช่น ดูดไขมันควบคู่กับการยกกระชับผิว หรือการทำศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและมีประสิทธิภาพ
***ดังนั้นวิธีลดเหนียงที่เหมาะสม ควรเริ่มจากการประเมินปัญหาของตัวเองก่อน และหากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์อย่างยาวนาน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและโครงหน้าของแต่ละบุคคล


