top of page

SEM AND SEO สำคัญยังไง และธุรกิจควรโฟกัสอันไหนมากกว่า!!


SEM AND SEO สำคัญยังไง และธุรกิจควรโฟกัสอันไหนมากกว่า!! การแข่งขันทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) และการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO) กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจเสริมความงามไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นบนเว็บไซต์และช่วยขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว 

SEM AND SEO สำคัญยังไง และธุรกิจควรโฟกัสอันไหนมากกว่า!!
SEM และ  SEO คืออะไร 

SEM คือ วิธีทำการตลาดผ่านเครื่องมือที่ใช้โฆษณาแบบจ่ายเงินเพื่อเพิ่มการมองเห็นบนเว็บไซต์ และให้ติดหน้า Google แต่เมื่อหยุดโฆษณาเว็บไซต์นั้น ๆ ก็จะหายไป 

ส่วน SEO คือ วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ด้วยวิธีธรรมชาติเพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลลัพธ์การค้นหาทั่วไป และถ้าเว็บไซต์ติดอันดับแล้วก็จะคงอยู่แบบนั้นไม่หายไป

ข้อแตกต่างของ SEM และ SEO 
ข้อแตกต่างของ SEM และ SEO
ทำ SEM กับ SEO คู่กันยังไงให้ได้ผลดี
ทำ SEM กับ SEO คู่กันยังไงให้ได้ผลดี

1 นำคำค้นหาที่ได้จาก SEM มาทำ SEO

หากเราทำ SEM หรือจ่ายเงินซื้อโฆษณา Google จะสามารถเก็บข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้บริการไว้ได้ ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อเลือกใช้  Keyword นำทำบทความ​ SEO หรือการ Optimize เว็บไซต์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


2. นำคำค้นหาที่ได้จาก SEO มาทำ SEM

หากเว็บไซต์ที่ทำ SEO เริ่มมีหน้าที่ติดอันดับบน ​Google สามารถวิเคราะห์ Keyword ของ SEO จาก  Google Search Console ได้ โดยวิเคราะห์ดูว่า Keyword ไหนมีคนสนใจมากให้นำมาทำ SEM ต่อก็จะช่วยเพิ่ม Traffic ได้มากขึ้น


3 ใช้วิธีทดสอบการ Landing Page 

การทำ SEM สามารถเปลี่ยนหน้า Landing Page ได้ตามความต้องการ ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าหน้าไหนเกิด Conversion หรือ Engagement มากที่สุด จากนั้นเราก็นำตัวอย่าง Landing Page นั้นมาใช้เป็นตัวอย่าง Optimize เพื่อให้ SEO นั้นติดอันดับบนหน้า Googleได้


4 ช่วยเพิ่มการแสดงผลบนเว็บไซต์

หากเว็บไซต์ทำ SEM และ SEO ใน Keyword เดียวกัน สามารถช่วยเพิ่มการแสดงผลของเว็บไซต์บน ​Google ได้ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่ม Traffic เพิ่มอัตราการคลิก และสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าผู้ใช้งานจะ Search Keyword นั้นเมื่อไหร่ก็จะเจอเว็บไซต์เราบนหน้าการจัดอันดับการค้นหาทุกครั้ง


แบรนด์ควรโฟกัสที่ SEM หรือ SEO
แบรนด์ควรโฟกัสที่ SEM หรือ SEO

1. เป้าหมาย

  • หากต้องการยอดเข้าชมเว็บไซต์และยอดขายเร็ว SEM จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับเลย 

  • หากต้องการความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าชมด้วยวิธีธรรมชาติในระยะยาว SEO จะเป็นวิธีที่ดีกว่า 


2. งบประมาณ

  • หากมีงบประมาณซื้อโฆษณา SEM ช่วยเพิ่มการมองเห็นและการเข้าชมได้รวดเร็ว 

  • หากมีงบจำกัดควรเลือกทำ SEO เพราะไม่ต้องเสียค่าโฆษณา แต่ต้องเสียเวลาเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ 


3. การแข่งขัน

  • หากมีการแข่งขันสูงอาจใช้เวลานานและยากขึ้น อาจต้องพึ่ง SEM จึงจะได้ผลเร็ว 

  • หากมีการแข่งขันเฉพาะกลุ่ม การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์คุณติดอันดับได้ง่ายขึ้น 


4. ความเชี่ยวชาญ

  • หากมีความรู้และทักษะการทำ SEO อาจให้ผลลัพธ์ที่ดี ยั่งยืน และเว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือ

  • หากไม่มีทักษะเรื่องเว็บไซต์ต้องจ้าง บริษัท agency หรือ marketing online ช่วยทำ SEM ถึงจะคุ้มค่า


5. ระยะเวลาของผลลัพธ์ 

  • SEM จะเห็นผลลัพธ์ในระยะสั้น เหมาะสำหรับการโปรโมทโปรโมชั่นต่าง ๆ 

  • SEO จะเห็นผลลัพธ์ในระยะยาว เหมาะสำหรับการขยายฐานลูกค้าและการมองเห็นระยะยาว


การเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ทำได้อย่างไร 
การเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ทำได้อย่างไร 

สามารถทำได้หลายวิธีซึ่งหลักการสำคัญคือการปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ เช่น การลงรูปภาพ ลดเนื้อหาที่ไม่จำเป็น ใช้การแคชข้อมูล หรือการเลือกโฮสติ้งที่มีประสิทธิภาพสูง และทำเว็บไซต์ให้อยู่บนพื้นฐานของ International SEO ด้วย นอกจากนั้นต้องออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานในมือถือเพราะคนส่วนใหญ่ค้นหาข้อมูลผ่านมือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ 



snapedit_1706672974576_edited.jpg

ME POWER Digital Agency

สร้างปรากฏการณ์ให้กับคลินิกของคุณ! ปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลสุดล้ำ

Logo  Line
bottom of page