
การตลาดจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งการทำการตลาดสามารถทำได้ตามความเชี่ยวชาญและงบประมาณที่มี แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าจิตวิทยาการตลาดสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้โดยไม่ต้องซื้อโฆษณาและไม่ต้องเสียเวลาไปอบรมที่ไหน ซึ่งคุณจะได้รู้เคล็ดลับการดำเนินธุรกิจด้วยหลักจิตวิทยาการตลาดให้ประสบความสำเร็จจากบทความข้างล่างนี้
จิตวิทยาการตลาดคืออะไร
จิตวิทยาการตลาด หรือ (Marketing Psychology) คือ การใช้แนวคิดหรือทฤษฎีในการทำความเข้าใจพฤติกรรม ความรู้สึก หรือแรงจูงใจของลูกค้า เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพและสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจิตวิทยาเป็นการหยั่งรู้กระบวนการตัดสินใจซื้อ เช่น การรับรู้ การจดจำ การประมวลผล และอารมณ์ความรู้สึกที่แสดงออกมา เป็นต้น หลังจากนั้นก็สามารถกำหนดการขายสินค้า การสื่อสาร หรือการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ซึ่งถือเป็นวิธีที่สอดคล้องกับความต้องการทางจิตวิทยาของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
เหตุผลที่จิตวิทยามีความสำคัญต่อการตลาดในยุคปัจจุบัน
การตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ การใช้จิตวิทยาจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ ซึ่งการใช้จิตวิทยาการตลาดสามารถสร้างความประทับใจและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้มากกว่าการสร้างภาพลักษณ์ การตั้งราคา การเลือกใช้ภาษา หรือการจัดวางสินค้าให้เหมาะกับการรับรู้ของ
มนุษย์ โดยรวมถือว่าจิตวิทยาการตลาดเป็นตัวช่วยในการเข้าใจลูกค้าและนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง
ประโยชน์ของการทำ Marketing Psychology
การใช้หลักจิตวิทยาการตลาดเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เห็นผลได้รวดเร็วมากโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อแอดโฆษณาให้สิ้นเปลือง และในขณะเดียวกันกลับได้ผลดีไม่ต่างกันดังนี้
ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและเพิ่มยอดขายได้
เพิ่มประสิทธิภาพในการตั้งราคาและโปรโมชั่น
สร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์
ช่วยปรับปรุงการบริการให้ตรงความต้องการ
ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
7 จิตวิทยาการตลาดช่วยสร้างยอดขาย

1 ใช้ความขาดแคลน Scarcity
การเสนอสิทธิพิเศษในเวลาจำกัดสามารถสร้างแรงกดดันเชิงบวกและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เช่น ลด 40% ภายใน 3 ชั่วโมง หรือ สินค้ามีแค่ 10 ชิ้นหมดแล้วหมดเลย
2 ใช้หลักการของราคา Price Framing
ใช้การเปรียบเทียบราคาโดยการแสดงราคาปกติและราคาพิเศษให้อยู่ข้าง ๆ กัน หรือการตั้งราคาแบบ Charm Pricing เช่น 999 บาท แทนที่จะเป็น 1000 จะช่วยให้รู้สึกถึงความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
3 ใช้หลักฐานทางสังคม Social Proof
สร้างความน่าเชื่อถือจากยอดผู้ติดตาม รีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้าคนอื่นที่เคยเข้ามาใช้บริการ ก็จะช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการแบรนด์ของคุณง่ายขึ้น
4 สร้างความคุ้นเคย Familiarity
การสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการสร้างความคุ้นเคยด้วยการสื่อสารอย่างจริงใจ ใช้ภาษาที่เป็นมิตร อธิบายสินค้าอย่างตรงไปตรงมา ช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายและเกิดความคุ้นเคย
5 สื่อสารคุณค่าอย่างชัดเจน Value Proposition Clarity
บอกเล่าคุณค่าที่จะได้รับอย่างชัดเจนเพื่อสร้างประโยชน์ที่จับต้องได้ พร้อมกับอธิบายว่าสินค้าหรือบริการช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง จะสามารถดึงดูดใจลูกค้ามากกว่าการบอกคุณสมบัติอย่างเดียว
6 สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ Customer Experience
สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำด้วยการดูแลที่สะดวก รวดเร็ว ชำระเงินได้ง่าย เพื่อลดการลังเลใจของลูกค้า มีการดูแลหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจและกระตุ้นให้กลับมาใช้บริการซ้ำ
7 กระตุ้นด้วยโปรแกรมสะสมแต้ม Loyalty Program
โปรแกรมสะสมแต้มหรือบัตรสมาชิกทำให้ลูกค้าอยากมาใช้บริการบ่อยขึ้นและสามารถสร้างความผูกพันต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังทำให้พวกเขารู้สึกได้รับสิทธิพิเศษกว่าใคร ๆ